บทความทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร
เทคโนโลยีคืออะไรและหน้าที่ของระบบมีอะไรบ้าง
? ‘เทคโนโลยี’
เป็นการใช้ปัจจัยต่างๆซึ่งมีความสำคัญผสมผสานเข้าด้วยกัน ทั้ง ความรู้ , อุปกรณ์ , ความคิด , หลักการ ,
เทคนิค , ระเบียบวิธี , กระบวนการ
รวมทั้งเป็นการนำศาสตร์วิทยาศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์อันทันสมัย รวมทั้งวิธีต่างๆมาประยุกต์ใช้
เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดียิ่งขึ้น
รวมทั้งเป็นวิธีเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้มีมากกว่าเคยเป็นมา
ในช่วงผ่านมา ทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ได้เข้ามามีเข้ามามีความสำคัญเพิ่มขึ้นจนกระทั่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมามากมายทั้ง
เรียนรู้ , ผลิต ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากไอเดียใหม่ๆ
ทำให้เกิดผลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ , สังคม , การเมือง , สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม การเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้สังคมมนุษย์
เติบโตเป็นสังคมที่ดำรงชีวิตอย่างสลับซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ปราศจากพรมแดนมาขว้างกัน‘กระแสโลกาภิวัฒน์’ ดำเนินเข้ามาสู่นานาประเทศอย่างรวดเร็ว
ซึ่งมาจากการผสมผสาน 4 องค์ความรู้เข้าด้วยกัน คือ
อิเล็กทรอนิกส์ , คอมพิวเตอร์ , โทรคมนาคม
, ข่าวสาร
ทำให้ทุกประเทศโลกแลกเปลี่ยนความรู้พร้อมสื่อสารกันได้ทุกหนทุกแห่งได้อย่างรวดเร็ว
ทำให้ บริหารได้ทุกเวลา รวมถึงทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุนซื้อ-ขาย
รวมทั้งทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว…
ระบบของเทคโนโลยี‘ระบบ’ ประกอบด้วยทั้งหมด 3
ส่วน ได้แก่ Input , Process , Output ซึ่งแปลว่า
อะไรก็ตามที่เป็น ‘ระบบ’ ขั้นตอนทำงานของทั้ง 3 องค์ประกอบนี้
จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ต่อกัน ยกตัวอย่างเช่น ระบบบำบัดน้ำเสีย มี Input คือ ‘น้ำเสีย’ ซึ่งมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งต้องนำมาผ่าน Process
เพื่อบำบัดอย่างเหมาะสม จนได้ผลลัพธ์คือน้ำใสสะอาดที่ได้รับบำบัดแล้วทั้งนี้ระบบเทคโนโลยี
เป็นระบบที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหารวมทั้งนำมาตอบสนองความต้องการ
จากการใช้ระบบเทคโนโลยี แบ่งองค์ประกอบออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่…
v Input คือ ปัญหาที่ต้องแก้ไข หรือ ความประสงค์ของมนุษย์
v กระบวนเทคโนโลยี คือ ขั้นตอนแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความเรียกร้องมนุษย์
โดยใช้ทรัพยากรทางเทคโนโลยีเพื่อให้ได้ผลผลิตตามความประสงค์
v ผลผลิต คือ สิ่งที่ได้มาอันเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี
หรือผลสุดท้ายอันพึงประสงค์ที่ได้มาจากกระบวนการแก้ปัญหานั่นเอง ซึ่งผลผลิตประเภทนี้อาจเป็นชิ้นงาน
บางครั้งอาจเป็นวิธีการก็ได้
v ทรัพยากรทางเทคโนโลยี คือ สิ่งจำเป็นที่ใช้ในการแก้ปัญหา เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประการสุดท้ายนั่นเอง
โดยทรัพยากรเทคโนโลยีสามารถแบ่งออกเป็น 7 ข้อ ได้แก่ มนุษย์ ,
ข้อมูลสารสนเทศ , เครื่องมือ , พลังงาน , ทุน-ทรัพย์สิน และเวลา
v ปัจจัยที่มีส่วนขัดขวางเทคโนโลยีมีมากมายหลายสิ่ง มันคือสิ่งอันเป็นข้อจำกัด , ข้อพิจารณา รวมทั้งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง โดยมันจะทำให้การแก้ปัญหาได้ผลลัพธ์แตกต่างกันออกไป
เช่น มีต้นทุนต่ำ , มีเวลาอันจำกัด ปราศจากความรู้ ความชำนาญ
รวมทั้งขาดทักษะ
ประโยชน์ของเทคโนโลยี
v ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์
v เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์
v อำนวยความสะดวกสบาย
v ประหยัดเวลา
v ทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
v โลกมีความทันสมัยล้ำหน้า
ความหมายเทคโนโลยีสารสนเทศมีอะไรบ้าง
?
เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT เป็นคำที่ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ในปัจจุบันนี้เกือบทุกสายอาชีพ ล้วนเล็งเห็นถึงความสำคัญของ ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ แทบทั้งนั้น ซึ่งคำว่า ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ มาจากคำว่าเทคโนโลยีและคำว่า สารสนเทศมารวมกัน ซึ่งแต่ล่ะคำมีความหมายเป็นของตัวเองดังนี้… 1.เทคโนโลยี (Technology) นำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ในกระบวนผลิต, สร้าง , ช่วยดำเนิน งาน ตลอดจนนำมาควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีตามธรรมชาติ ช่วยทำให้มนุษย์ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกจากเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันและดำเนินงานในด้านต่างๆ 2.สารสนเทศ (Information) เป็นผลลัพธ์อันเกิดมาจากการประมวลผลข้อมูลดิบ ทั้งจัดข้อมูล , เรียงลำดับข้อมูล ,คำนวณรวมทั้งสรุปผล หลังจากนั้นก็นำข้อมูลที่ผ่านการสังเคราะห์แล้ว มานำเสนอในรูปแบบของรายงานเช่น ข่าว , ความรู้ทางวิชาการ และธุรกิจเมื่อนำเอาคำว่า ‘เทคโนโลยี’ กับ ‘สารสนเทศ’ มารวมเข้าด้วยกันแล้ว จึงสามารถสรุปได้ว่า ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ เป็นการประยุกต์นำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาจัดสารสนเทศตามต้องการ จากการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ , เทคโนโลยีโทรคมนาคม รวมทั้งความรู้ในการดำเนินงานสารสนเทศในขั้นตอนต่างๆ ทำให้คำว่า ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ ในปัจจุบันมีความหมายกว้างขวางมาก ซึ่งสามารถจำแนกตามการพบเจอในชีวิตประจำวันได้ดังนี้1.เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าระบบ เช่น ในการสอบแข่งขันที่มีผู้สอบจำนวนมาก ทางสถานศึกษาก็จะให้ใช้ดินสอระบายตามวงกลมที่เลือกตอบ เพื่อนำไปให้ ‘เครื่องอ่าน’ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยความรวดเร็ว โดยเป็นการทุ่นกำลังมนุษย์ หรือเมื่อคุณไปซื้อสินค้า ณ ห้างสรรพสินค้า ก็มี Bar code ปรากฏอยู่บนสินค้าทุกชิ้น พนักงานก็จะนำสินค้าผ่านเครื่องตรวจ เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บรวบรวมทั้งแสดงราคา และบันทึกว่าสินค้าประเภทนี้ถูกซื้อไปเท่าไหร่แล้ว2. ประมวลผล ข้อมูลที่รวบรวมมาได้จะต้องนำมาเก็บในสื่อต่างๆ เช่น CD , ไฟล์.MP3 เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่าน็จะถูกนำมาประมวลผลตามจุดประสงค์ต่างๆ เช่น แบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม , เรียงลำดับข้อมูล , คำนวณ รวมทั้งคัดแยกข้อมูลให้เป็นระเบียบ3. แสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ในการแสดงผลลัพธ์นั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก ทั้งแสดงเป็นตัวหนังสือ , รูปภาพ รวมทั้งพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษ สำหรับการแสดงผลลัพธ์นั้น ก็มีทั้งแสดงเป็นภาพ, เสียง , วีดีทัศน์ เป็นต้น4.สำเนา เมื่อนำข้อมูลมาเก็บแบบอิเล็กทรอนิกส์ การทำสำเนาก็จะสามารถทำได้ง่าย รวมทั้งจัดทำได้เป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ช่วยในการทำสำเนา จึงเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร , CD , Flash Drive ซึ่งทำสำเนาได้จำนวนมาก5.สื่อสารโทรคมนาคม เป็นส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่ หรือ นำไปยังปลายทางจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันมีอุปกรณ์โทรคมนาคมหลายประเภททั้ง โทรเลข , โทรศัพท์ , เส้นใยนำแสง , เคเบิลใต้น้ำ เป็นต้น
เทคโนโลยีการสื่อสารที่คุณต้องการเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT เป็นคำที่ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ในปัจจุบันนี้เกือบทุกสายอาชีพ ล้วนเล็งเห็นถึงความสำคัญของ ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ แทบทั้งนั้น ซึ่งคำว่า ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ มาจากคำว่าเทคโนโลยีและคำว่า สารสนเทศมารวมกัน ซึ่งแต่ล่ะคำมีความหมายเป็นของตัวเองดังนี้… 1.เทคโนโลยี (Technology) นำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ในกระบวนผลิต, สร้าง , ช่วยดำเนิน งาน ตลอดจนนำมาควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีตามธรรมชาติ ช่วยทำให้มนุษย์ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกจากเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันและดำเนินงานในด้านต่างๆ 2.สารสนเทศ (Information) เป็นผลลัพธ์อันเกิดมาจากการประมวลผลข้อมูลดิบ ทั้งจัดข้อมูล , เรียงลำดับข้อมูล ,คำนวณรวมทั้งสรุปผล หลังจากนั้นก็นำข้อมูลที่ผ่านการสังเคราะห์แล้ว มานำเสนอในรูปแบบของรายงานเช่น ข่าว , ความรู้ทางวิชาการ และธุรกิจเมื่อนำเอาคำว่า ‘เทคโนโลยี’ กับ ‘สารสนเทศ’ มารวมเข้าด้วยกันแล้ว จึงสามารถสรุปได้ว่า ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ เป็นการประยุกต์นำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาจัดสารสนเทศตามต้องการ จากการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ , เทคโนโลยีโทรคมนาคม รวมทั้งความรู้ในการดำเนินงานสารสนเทศในขั้นตอนต่างๆ ทำให้คำว่า ‘เทคโนโลยีสารสนเทศ’ ในปัจจุบันมีความหมายกว้างขวางมาก ซึ่งสามารถจำแนกตามการพบเจอในชีวิตประจำวันได้ดังนี้1.เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าระบบ เช่น ในการสอบแข่งขันที่มีผู้สอบจำนวนมาก ทางสถานศึกษาก็จะให้ใช้ดินสอระบายตามวงกลมที่เลือกตอบ เพื่อนำไปให้ ‘เครื่องอ่าน’ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยความรวดเร็ว โดยเป็นการทุ่นกำลังมนุษย์ หรือเมื่อคุณไปซื้อสินค้า ณ ห้างสรรพสินค้า ก็มี Bar code ปรากฏอยู่บนสินค้าทุกชิ้น พนักงานก็จะนำสินค้าผ่านเครื่องตรวจ เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บรวบรวมทั้งแสดงราคา และบันทึกว่าสินค้าประเภทนี้ถูกซื้อไปเท่าไหร่แล้ว2. ประมวลผล ข้อมูลที่รวบรวมมาได้จะต้องนำมาเก็บในสื่อต่างๆ เช่น CD , ไฟล์.MP3 เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่าน็จะถูกนำมาประมวลผลตามจุดประสงค์ต่างๆ เช่น แบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม , เรียงลำดับข้อมูล , คำนวณ รวมทั้งคัดแยกข้อมูลให้เป็นระเบียบ3. แสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ในการแสดงผลลัพธ์นั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก ทั้งแสดงเป็นตัวหนังสือ , รูปภาพ รวมทั้งพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษ สำหรับการแสดงผลลัพธ์นั้น ก็มีทั้งแสดงเป็นภาพ, เสียง , วีดีทัศน์ เป็นต้น4.สำเนา เมื่อนำข้อมูลมาเก็บแบบอิเล็กทรอนิกส์ การทำสำเนาก็จะสามารถทำได้ง่าย รวมทั้งจัดทำได้เป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ช่วยในการทำสำเนา จึงเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร , CD , Flash Drive ซึ่งทำสำเนาได้จำนวนมาก5.สื่อสารโทรคมนาคม เป็นส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่ หรือ นำไปยังปลายทางจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันมีอุปกรณ์โทรคมนาคมหลายประเภททั้ง โทรเลข , โทรศัพท์ , เส้นใยนำแสง , เคเบิลใต้น้ำ เป็นต้น
เทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร มีบทบาทอะไรกับเราบ้างในแต่ละวัน
โดยมือถือก็คือเครื่องมือสื่อสารอย่างหนึ่ง ที่เราไม่สามารถขาดไปได้เลยนั้นเอง จึงเป็นเหตุผลให้เรานั้นได้มีการพัฒนาระบบเครือข่ายให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่เราพัฒนาระบบนั้นเราก็จะได้เห็นว่าการ ที่เราสามารถพัฒนาระบบให้กระจายออกไปได้ในบริเวณที่กว้างแล้ว สัญญาณของเรานั้นก็เป็นเรื่องทีสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เพราะระบบเครือข่ายมือถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการที่เรานั้นได้มีการกระจายเครือข่ายให้กว้างออกไปได้นั้น |
เราก็ยังที่จะสามารถครอบคลุมโซนพื้นที่ต่างๆไปได้อีกด้วย เพราะว่าสมัยนี้การที่เรานั้นได้เห็นว่าเครือข่ายไหนครอบคลุมสัญญาณได้มากที่สุด และสามารถปล่อยสัญญาณได้แรงที่สุด ก็จะเป็นฝ่ายที่ได้ลูกค้าไปนั้นเอง โดยจะเห็นว่าการที่เรานั้นได้มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆและไม่มีวันหยุดพักนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเลย สำหรับเครือข่ายหนึ่ง ที่สามารถเป็นที่ยอมรับของทุกคนได้ เพราะว่าการที่เราจะให้ใครยอมรับในสิ่งที่เราต้องการที่จะให้คนอื่นเห็นนั้นเอง เพราะว่าในการเดินทางไปแต่ละที่นั้น เราจะต้องพกไปตลอดเวลาอยู่แล้ว และยังต้องการที่จะใช้เครือข่ายเพื่ออัพเดทระบบของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีวันหยุดนิ่งนั้นเอง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการที่เราจะอัพเดทระบบนั้นเราจะต้องมีการขยายธุรกิจเพิ่มไปอีกนั้นเอง และสมัยนี้มือถือเป็นอะไรที่ทุกคนขาดไม่ได้แล้วนั้นเองซึ่งเราจะเห็นได้ว่ามือถือสมัยนี้คนจะถือกันเยอะนั้นเอง ซึ่งการที่เรานั้นจะไปเที่ยวในต่างจังหวัดเราก็อยากที่จะอัพรูปหรือสเตตัสต่างๆลงเฟสบุ๊คนั้นเอง ก็เป็นผลให้คนสมัยนี้ติดเฟสบุ๊คกันมากขึ้นไปอีก เพราะว่าเราสามารถช่วยแชร์ประสบการณ์ใหม่ๆผ่านเฟสบุ๊คได้ทุกเมื่อ เพราะถ้าเราต้องการที่จะเล่นโซเซียลแล้วเราก็ต้องการระบบที่สามารถทำงานได้รวดเร็ว และต้องเป็นระบบที่เราสามารถใช้ได้ดีอีกด้วยในการเล่นเกมหรือใช้อะไรที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตนั้นเอง โดยเราจะรู้ได้ว่าเรานั้นชอบเลือกซื้อมือถือแบบไหนที่ต้องทนกับการใช้งานที่คุ้มค่าของเราได้นั่นเอง ลองไปหาซื้อมือถือในแบบที่คุณชอบมานะคะไม่ใช่ซื้อเพราะตามกระแส เพราะบางทีคุณอาจจะไม่ชอบในสิ่งที่คนอื่นชอบก็เป็นไปได้นั่นเอง
ระบบเทคโนโลยีที่เรียกว่าสมองกลหรือคอมพิวเตอร์
ถ้าหากถามถึงเทคโนโลยีนั้นทุกคนก็ต้องพูดถึงกันอยู่แล้วว่าคอมพิวเตอร์เพราะว่าเป็นสิ่งแรกๆ ที่วัยรุ่นไทยสมัยใหม่นั้นต้องบอกว่ามันสะดวกและรวดเร็วอย่างมากไม่ว่าจะหาอะไรก็เจอด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นเองเนื่องด้วยตัวของมันเองนั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยให้ทันกับการใช้งานในสมัยนี้เพราะว่า คอมพิวเตอร์ สามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าที่คุณคิดว่าจะทำงานเกี่ยวกับบัญชีหรือทำงานเกี่ยวกับกราฟิกดีไซน์หรืองานต่างๆ ตามบริษัทใหญ่ๆแต่ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คือเทคโนโลยีที่มีในคอมพิวเตอร์มันสามารถเป็นเครื่องมือในการศึกษาหาความรู้ได้ในการเรียนได้ไม่ว่าจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์วิชาวิทยาศาสตร์วิชาสังคมวิชาภาษาไทยวิชาอังกฤษและ อื่นๆ อีกมากมายและที่หนุ่มไทยวัยรุ่นนั้นชอบกันมากที่สุดเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก็คือมันสามารถเล่นเกมส์ได้ด้วยแบบระบบออนไลน์ทั่วโลกเกมส์ที่สามารถเล่นบนคอมพิวเตอร์ก็มีด้วยกันมากมายแต่ที่เราจะยกตัวอย่างที่ผู้คนทั่วโลกนิยมเล่นกันก็คือเกมส์แนว moba (Multiplayer Online Battle Arena) และเกมส์ที่เราจะนำเอามาเสนอกันในวันนี้ก็คือ lol หรือ League of Legends มันคือสุดยอดของเกมส์ moba ที่ระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นั้นสามารถทำให้มันเล่นได้โดยเราขอเล่าย้อนกลับไปตอนที่ยุคของคอมพิวเตอร์มาใหม่ลักษณะทั่วไปของมันจะเป็นเหมือนตู่สี่เหลี่ยมๆ ให้เราลองจินตนาการไปว่าเหมือนตู้ปลาแค่แตกต่างกันที่ว่ามันต้องมี cpu นั้นเองสีของมันก็จะมีสีขาวขุ่นส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์หลักๆแล้วจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชิ้นนั่นก็คือ คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ cpu ถ้าหากขาดชิ้นส่วนชิ้นใดไปคอมพิวเตอร์ก็จะไม่สมประกอบแต่ส่วนที่สำคัญที่สุดแล้วของ ระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ก็คือข้อมูลและหน่วยความจำที่ถูกจัดเก็บใน cpu นั่นเองหากขาดข้อมูลในส่วนของตรงนี้ไปคอมพิวเตอร์ก็จะไม่สมประกอบ
ระบบเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารด้วยโทรศัพท์มือถือ ถ้าหากถามถึงว่าการเวลายุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้วแล้วอะไรมั่งที่เปลี่ยนแปลงตามการเวลาก็เห็นจะเป็น ระบบเทคโนโลยี นั่นเองที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างบ่อยไม่ว่าจะเป็นในด้านการค้าขายหรือการทำธุรกิจก็ตามและอีกอย่างที่มีการพัฒนาอย่างมากก็คือระบบเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารด้วย โทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการโทรพูดคุยสื่อสารในสถานที่ไกลๆ หรือว่าในสถานที่เราไม่สามารถที่จะไปเจอหรือพบเห็นกันได้ซึ่งยังมีระบบเทคโนโลยีที่ว่ากล้องที่สามารถถ่ายรูปและอัดวีดีโอได้เจ้าซึ่งนี้มีมาเพื่อตอบสนองความต้องการของของท่านที่มีความชื่นชอบหรือรักในการในคลิปเพื่อที่จะไปโชว์เพื่อนๆเมื่อเวลาที่เราไปในสถานที่ต่างๆ นั้นเองแถมยังมีเทคโนโลยีที่เรียกว่าการฟังการดูนั้นก็คือเจ้าโทรศัพท์โดยทั่วไปแล้วนั้นมันก็สามารถฟังได้อยู่แล้วตามปกติที่เราจะบอกก็คือมันสามารถเล่น อินเตอร์เน็ต ได้บนมือถือพร้อมทั้งฟังเพลงไปด้วยแล้วดูวีดีโอที่เราต้องการได้อีกด้วยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมันก็คือความก้าวหน้าของระบบที่เรียกว่าเทคโนโลยีนั่นเองซึ่งในสมัยก่อนนั้นพูดได้เลยว่าไม่มีแบบนี้แน่นอนซึ่งการติดต่อสมัยก่อนนั้นสมัยโบราณจะใช้การติดต่อสื่อสารแบบที่เรียกว่านกพิราบในการสื่อสารซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกที่เรานั้นเขียนข้อความลงไปที่กระดาษแล้วให้นกบินไปหายังอีกที่หนึ่งก็เป็นสิ่งที่แปลกและอีกการติดต่อสมัยนั้นก็คือติดต่อทางบกนั้นก็คือใช้มาเป็นยานพาหนะเพราะว่าในการต่อสู้หรือสู้รบนั้นม้าถือว่าเป็นสัตว์ที่ติดต่อสื่อสารได้สะดวกและรวดเร็วที่สุดในสมัยนั้นแต่ในปัจจุบันนั้นไม่ใช่อีกต่อไปแล้วมันมีการติดต่อที่สะดวกรวดเร็วกว่านั้นหรือที่เรียกกันว่าระบบเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยโทรศัพท์
ข้อดีของเทคโนโลยีการสื่อสาร
1. การจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
2. ข้อมูลมีควาถูกต้องมากขึ้น
3. สะดวกและมีความเร็วในการทำงาน
4. สามารถลดต้นทุนและประหยัดได้มากขึ้น
ข้อเสียของเทคโนโลยีการสื่อสาร
1. ทำให้มนุษย์เสียเวลากับการใช้ โซเชียลมีเดีย (Social Media) มากเกินไป
2. เกิดปัญหาอาชญากรรมและการหลอกลวงมากขึ้น
3. ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลได้ง่ายขึ้น
ผลกระทบโดยตรงกับสังคม
1. ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น
2. ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอยลง
3. ทำให้เกิดความเสี่ยงในด้านต่างๆ
4. ทำให้เผยแพร่สิ่งที่ไม่ดีเร็วขึ้น